การใช้งานเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ในปัจจุบันเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การแพทย์ การทหาร วิศวกรรม หรือแม้กระทั่งการนำ VR ไปใช้ในการอบรมให้แก่พนักงานในองค์กร หรือที่เรารู้จักกันในนาม VR Training

จากข้อมูลของ Statista นักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นถึงการเติบโตของตลาด VR ไว้ว่าส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวของอุปกรณ์ VR Headset ที่มีขนาดเล็กลง มีความสวยงามมากขึ้น และมาในราคาที่จับต้องได้มากยิ่งขึ้นส่งผลให้ผู้คนเริ่มหาซื้อมาไว้ในครอบครองกันทั้งในระดับบุคคลและองค์กร เราสามารถพบเห็นไอเดียใหม่ๆในการใช้งาน VR เพิ่มมากขึ้น ทั้งการใช้เพื่อความสนุกสนานและใช้ในการทำงาน รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยี VR ไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อประโยชน์ในการฝึกอบรมที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงมากกว่าแค่การเรียนรู้ในภาคทฤษฎีเพียงอย่างเดียว 

ไอเดียนำ VR มาใช้ในที่ทำงาน พร้อมตัวอย่างประกอบ

1. เสริมสร้างความมั่นใจให้พนักงานผ่านการพัฒนา Soft skills

การพัฒนา soft skills ของพนักงานในองค์กร ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับองค์กร เพราะเมื่อพนักงานมีการพัฒนา องค์กรก็ย่อมได้ผลประโยชน์จากตรงนี้ไปด้วย การนำ VR Training มาใช้ในการพัฒนา soft skills ให้กับพนักงาน นอกจากจะช่วยให้พนักงานให้ความร่วมมือกับการอบรมแล้วยังช่วยให้พนักงานรู้สึกสนุก ไม่รู้สึกเบื่อจนหลุดโฟกัสอีกด้วย

งานวิจัยของ PwC กล่าวว่าการนำ VR มาใช้ในการฝึกอบรม soft skills ให้กับพนักงานช่วยให้พนักงานสามารถเรียนจบคอร์สได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่า มีความมั่นใจในการนำความรู้ที่ได้ไปใช้มากกว่าการเรียนในห้องเรียนหรือ E-learning มีอารมณ์ร่วมกับเนื้อหาที่เรียนมากกว่าและโฟกัสได้มากกว่าการเรียนในห้องเรียนหรือเรียนกับ E-learning นอกจากนี้ งานวิจัยยังกล่าวอีกว่าการลงทุนใน VR Training นั้นมีความคุ้มค่ากว่าในระยะยาวและในสเกลที่ใหญ่ขึ้นของการอบรม

2. เพิ่มสีสันให้การประชุม

ทุกวันนี้การประชุมงานออนไลน์นับเป็นสิ่งที่มีบทบาทอย่างมากในองค์กร เพราะเมื่อผลกระทบจากโรคระบาดส่งผลให้ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานมาเป็นรูปแบบ work from home แน่นอนว่าการประชุมออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Zoom, Google Meet หรือช่องทางอื่นๆ นั้นสามารถช่วยให้การประชุมงานสำเร็จลุล่วงไปได้ แต่เมื่อนานวันเข้าพนักงานก็อาจเกิดความเบื่อหน่ายจนต้องปิดกล้องหนี การนำเทคโนโลยี VR เข้ามาช่วยอาจทำให้การประชุมมีสีสันมากขึ้น

จากตัวอย่างการประชุมผ่าน Horizon Workrooms ของ Facebook หรือ Meta แสดงให้เห็นว่าการประชุมผ่านการใช้อุปกรณ์ VR นั้นมีลูกเล่นหลายอย่าง เช่น การผสมผสานระหว่างอุปกรณ์บนโต๊ะและคีย์บอร์ดแทรคกิ้ง, การใช้ Virtual whiteboard เพื่อ brainstorms หรือ sketching, การเปลี่ยนหน้าตาห้องประชุมได้แบบเรียลไทม์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามในขณะนี้ Horizon Workrooms สามารถเข้าใช้งานได้ผ่าน VR Headset ของ Oculus Quest 2 เท่านั้น

3. ฝึกฝนมากขึ้น ผิดพลาดน้อยลง

ในงานที่มีความละเอียด ซับซ้อนหรืองานที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียทั้งในด้านกำลังคนและกำลังทรัพย์ ผู้บริหารเองย่อมต้องการคนที่มีประสบการณ์มาดูแลในหน้าที่นั้นๆ แต่การจะมีประสบการณ์ได้ในระดับที่ความผิดพลาดแทบเป็นศูนย์ก็ต้องอาศัยการฝึกฝนและการผ่านหน้างานมาอย่างโชกโชนเช่นกัน การใช้ VR Training ช่วยให้การฝึกฝนหน้างานเหล่านี้กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น พนักงานสามารถฝึกฝนเมื่อไหร่ก็ได้ ผิดพลาดก็สามารถเริ่มใหม่ได้โดยไม่สร้างผลกระทบกับงานในชีวิตจริง และไม่ทำให้เกิดการสูญเสียขององค์กรด้วย

ตัวอย่างจากโรงแรม Hilton ซึ่งใช้ VR ในการฝึกฝนให้พนักงานได้ลองรับมือกับสถานการณ์เสมือนจริงที่แตกต่างกันไปในหลายบริบท ตั้งแต่พนักงานงานบริการ พนักงานต้อนรับ หรือแม้แต่งานในห้องครัว เหล่านี้ล้วนเป็นงานที่ต้องอาศัยประสบการณ์เข้าช่วยเพื่อให้แขกที่มาพักเกิดความประทับใจมากที่สุด

4. ลดการเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงานด้วย case study

อุบัติเหตุในที่ทำงานเกิดขึ้นได้เสมอแม้จะป้องกันเต็มที่แล้วก็ตาม การทำงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานดับเพลิง งานโรงงาน งานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า เป็นต้น เหล่านี้นับเป็นงานที่มักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง การจำลองเหตุการณ์เหล่านี้ในรูปแบบของ case study และฝึกฝนพนักงานผ่านการใช้ VR Training ช่วยให้พนักงานได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจ ช่วยให้สามารถรับมือได้ดีมากขึ้นในสถานการณ์จริง และอาจช่วยลดเปอร์เซนต์ของอุบัติเหตุในที่ทำงานได้

ตัวอย่างจากการไฟฟ้านครหลวงที่ใช้ VR Training ในการฝึกอบรมให้กับช่างไฟฟ้าเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการทำงานจริง นอกจากจะช่วยในเรื่องความปลอดภัยแล้วยังสามารถช่วยลดต้นทุนในการฝึกซ้อมได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วย

5. มิตรภาพสร้างได้ในที่ทำงาน

นอกจากข้อดีในการช่วยพัฒนาศักยภาพของพนักงานแล้ว VR เองยังสามารถช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้พนักงานในองค์กรได้อีกด้วยผ่านการใช้เทคโนโลยี VR ในรูปแบบเกมหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้พนักงานได้ใช้เวลาร่วมกันนอกจากการทำงานได้อีกด้วย ส่วนจะเป็นเกมหรือกิจกรรมในรูปแบบไหนนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของพนักงานแล้วล่ะค่ะ

หากจะพูดว่าในอนาคต Virtual Reality หรือ VR จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทมากขึ้นในองค์กรก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง เพราะปัจจุบันองค์กรก็ได้มีการนำเทคโนโลยีนี้เข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้น ในอนาคตอันใกล้นี้เราอาจได้เห็นตัวอย่างการใช้งาน VR ที่เพิ่มมากขึ้นก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละองค์กร แต่ละอุตสาหกรรมจะนำไปปรับใช้อย่างไรต่อไป

สนใจติดต่อทำ Realistic Training สำหรับฝึกอบรมพนักงานในองค์กรติดต่อได้ที่ : Click

Source :

https://www.statista.com/topics/2532/virtual-reality-vr/#topicHeader__wrapper

https://www.pwc.com/us/en/tech-effect/emerging-tech/virtual-reality-study.html

https://www.xrtoday.com/reviews/facebook-horizon-workrooms-review/